เรื่องเบื้องหลังโฆษณา CSR ส่งเสริมกิจกรรมอาสาสมัคร โครงการ “เรดบูลสปิริต”

ภาพยนตร์โฆษณา CSR ส่งเสริมกิจกรรมอาสาสมัคร เรื่อง “ใจอาสา” ออกอากาศให้เราได้ชมกันทางโทรทัศน์ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา วันนี้จะขอนำเบื้องหลังการถ่ายทำมานำเสนอกับสมาชิกที่ติดตามเว็บไซต์ www.redbullspirit.org เพื่อให้ได้รู้ว่าเบื้องหลังการทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็มีรสชาติโหด มัน ฮา ไม่แพ้กิจกรรมอาสาของเราเลย

ความจริงเป็นสิ่งที่งดงามอยู่แล้ว

แนวความคิดสร้างสรรค์ของเรื่องนี้เรียบง่ายมาก คือ “ใจอาสาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้”

ซึ่งใครก็ตามที่มีประสบการณ์อาสาคงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี พวกเราในทีมสร้างสรรค์ได้ไปร่วมกิจกรรมอาสามาทุกครั้งตั้งแต่ สร้างบ้านดิน พี่เลี้ยงอาสา ศิลปะและดนตรีบำบัด มันไม่มีอะไรต้องแต่งเติมเลย 4 วันที่ไปสร้างบ้านดิน 1 วันที่เป็นพี่เลี้ยงอาสา แค่เล่าตรงไปตรงมา เคารพและซื่อสัตย์ต่อประสบการณ์ตรงนั้น เรื่องก็งดงามด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว

ครีเอทีฟไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าจำลองประสบการณ์และความรู้สึกที่อยู่ใน หัวใจคนอาสาที่ไปร่วมกับเรดบูลสปิริต มาให้ผู้ที่ยังไม่เคยไปได้รับรู้เท่านั้น

พี่แดง หรือ คุณสุขจิต ศรีสุคนธ์ Creative Director บริษัท สยามเมนทิส จำกัด เล่าถึงที่มาของ Story Board ของหนัง”ใจอาสา” ให้ฟังพร้อมแถมว่า

ที่ถามตอนจบว่า คุณมีเวลาเท่าไร? เป็นคำถามที่ฝากไว้ให้เราทุกคนถามตัวเอง ชีวิตเราแต่ละคนอาจจะมีเรื่องที่อยากทำเยอะแยะ และโดยมากก็จะยังไม่ได้ทำซะที แต่จริงๆแล้ว งานอาสาไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก มีเวลาแค่ไหนก็ทำแค่นั้น ลองถามตัวเองดูเราอาจจะพบว่า บางทีนั่งเฉยๆ ก็หมดไปวันนึงแล้ว

เบื้องหลังความงาม มีความอึด!!

โฆษณา CSR เรื่อง “ใจอาสา” จำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วและกำลังจะเกิดขึ้น ได้แก่ การสร้างบ้านดินเป็นศูนย์การเรียนรู้ ที่ อ.ภูเวียง จ. ขอนแก่น การเป็นพี่เลี้ยงอาสาเพื่อนักกีฬาพิเศษ กิจกรรมศิลปะและดนตรีบำบัด ที่โรงเรียนธรรมจารินีวิทยา และการปลูกป่าชายเลน การถ่ายทำจึงต้องไปถ่ายทำใน 4 โลเคชั่นที่มีความแตกต่างกัน ใช้เวลาถ่ายทำ 4 วัน โดยทีมโปรดักชั่นจอมทรหด

วันแรก สร้างบ้านดินกลางสายฝน

ยังเริ่มถ่ายไม่ได้นะคะตอนนี้ฝนตกกระหน่ำ เสียงโทรศัพท์จากโปรดิวเซอร์แจ้งตอน 7.00 น.ของวันที่ 19 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่เราเริ่มถ่ายวันแรก กำแพงดิน หลุมดิน เต้นท์ที่จำลองจากกิจกรรมที่ภูเวียง โดดเด่นกลางสายฝน ที่คลองห้า รังสิต

กองถ่ายที่เริ่มงานตั้งแต่ตีสาม พร้อมกับตัวแสดงหลายสิบชีวิตหยุดรอระหว่างสายฝนโปรยปราย ไม่นานหลังจากนั้นพอฝนซา เสียงสั่ง “แอ็คชั่น!” ดังสนั่นของผู้กำกับก็เริ่มขึ้น เริ่มต้นด้วยฉากยำ่ดิน อาสาตั้งแถวส่งก้อนดิน (ใช้ก้อนดินจริง หนัก 7 – 8 กิโลกรัมเท่าก้อนดินที่อาสาตัวจริงเคยส่งมาแล้ว) และเพื่อให้การก่อกำแพงดินถูกต้องตามวิธี คุณสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ผู้บริหารฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม ของบริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด ก็ได้ให้คำแนะนำในการก่อและฉาบผนัง คุณสมคิด รุจีปกรณ์ หรือ พี่เก๊ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมสังคม ได้ลุยโคลนเหนียวหนับไปร่วมเป็นแอ็คติ้ง โค้ช อย่างใกล้ชิด

ฝนฟ้าเป็นใจนะคะ ตกเพียงปรอยๆ ให้บรรยากาศสมจริง เหมือนวันที่เราไปทำบ้านดินที่ภูเวียงเลย คุณสุทธิรัตน์สรุปก่อนเราจะย้ายกองสู่ สนามกีฬา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คลอง 16

วันนี้พิเศษ เพราะเรามีคนพิเศษ

ที่สนามกีฬาคลอง 16 สนามได้ถูกตกแต่งอย่างงดงามด้วยธงทิว อัฒจันทร์เล็กๆ ลูกโป่งหลากสีสัน สดใส สวยงาม แต่ยังไม่เท่ากับรอยยิ้มสดใสของน้องๆ นักเรียนจากโรงเรียนปัญญาวุฒิกร และคุณครูที่รอคอยเราอยู่แล้ว

บนลู่วิ่ง ผู้แสดงที่รับบทอาสาสมัครทำความเข้าใจกับหน้าที่ของพี่เลี้ยงอาสา และ รอทำหน้าที่ฮักเกอร์อยู่ที่หลังเส้นชัย ผู้กำกับ ผู้ช่วย ตากล้อง ทำการวางมุมกล้อง จนได้มุมสวยสมใจ จากนั้นคนสำคัญของเราคือน้องๆ คนพิเศษจากโรงเรียนปัญญาวุฒิกรก็เข้าประจำที่

พอผู้กำกับสั่งแอ็คชั่น กล้องเดิน น้องๆ คนพิเศษของเราวิ่งอย่างสุดจิตสุดใจ มุ่งมาหาพี่ๆ อาสาสมัครที่เรียกชื่อน้อง ส่งเสียง ส่งพลังใจ ส่งสายตาเพื่อให้น้องวิ่งมาให้ถึงเส้นชัยให้ได้

เพื่อเก็บภาพทั้งมุมใกล้ มุมไกล จึงต้องมีการถ่ายหลายเทค ยิ่งถ่ายพี่ๆ อาสาก็ยิ่งซาบซึ้งกับหน้าที่ของพี่เลี้ยงอาสา เพราะสำหรับน้องๆ แล้ว ทุกครั้งไม่ใช่การแสดง แต่คือการวิ่งสุดแรงอย่างแท้จริงเพื่อไปสู่อ้อมกอดแห่งกำลังใจที่รออยู่ที่ เส้นชัยแห่งนั้น

ตลอดบ่าย ฟ้าครึ้มแต่ไม่มีฝน เหมือนเอาใจช่วยให้น้องๆ คนพิเศษของเรา และทีมงาน ถ่ายทำได้ภาพที่สวยงามได้โดยไม่ร้อนไม่เหนื่อย

แม้จะเป็นเพียงการถ่ายทำ แต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความสดใส ของน้องๆทุกคน โดยเฉพาะน้องเจเจ พระเอกของเรา ได้สร้างความประทับใจให้พี่ๆ นักแสดงและทีมงาน และสัญญาว่าจะหาโอกาสมาเป็นพี่เลี้ยงอาสาให้ได้สักครั้ง

“ขอบคุณ นะคะ ที่มีการสร้างหนังแบบนี้” คุณครูจากโรงเรียนปัญญาวุฒิกร เดินมาบอกทีมงานเมื่อเราเริ่มทยอยเก็บข้าวของ “คุณครูอยากให้คนดูได้เข้าใจคนพิเศษมากขึ้น”

ขากลับ ระหว่างทางที่ดูแลกลุ่มนักเรียน เราได้เห็นคุณครูท่านนั้นช่วยแบกน้องนักเรียนคนหนึ่งขึ้นหลังเพื่อเดิน ตัดทางรกและสะพานไม้่เพื่อกลับไปที่รถตู้ที่จอดอยู่ไกลออกไป สิ่งที่พวกเราทำกำลังทำอยู่นั้นเทียบไม่ได้เลยกับความยากลำบากของคุณครูและ ครอบครัวของคนพิเศษที่ต้องดูแลน้องๆ เหล่านี้ ให้เติบโตขึ้นในสังคมที่ยังขาดความเข้าใจในตัวพวกเขา

หลังสู้ฟ้า หน้าสู้แดด

ทั้งที่ทีมงานได้มาทำการบ้านเพื่อเตรียมการถ่ายทำที่นี่แล้วหลายครั้ง และได้กลิ่นความทรหดของฉากนี้อยู่พอประมาณ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความจริงง่ายขึ้น เช้ามืด ของวันที่ 20 มิถุนายน ฉากใหญ่ตระการตาประกอบด้วยอาสาสมัครหลายสิบ ทีมงานกล้อง ไฟ และฝ่ายอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนแต่ต้องลงไปทำงานอยู่ในโคลนเหลว ตั้งแต่ครึ่งแข้งจนถึงครึ่งหน้าขา คราวนี้แหละ ไม่ใช่แค่ตากล้องที่ถ่ายภาพสโลว์โมชั่นให้ได้อารมณ์ซาบซึ้ง แต่กองถ่ายและตัวแสดงก็ต้องเคลื่อนไหวด้วยจังหวะสโลว์โมชั่นกันไปหมดไม่มี การละเว้น

ส่วนกล้องและนั่งร้านต้องตั้งอยู่บนเรือท้องแบน ผู้กำกับและตากล้องยืนอยู่บนไม้กระดานเพื่อไม่ให้จมลงไปในโคลน การทำงานจึงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก ถึงเวลาแอ็คชั่น คุณสุทธิรัตน์ หรือ คุณตุ๊กตา ได้ยำ้เน้นถึงวิธีการปลูกป่าชายเลน และให้คำอธิบายกับทีมงานว่า

การเดินจับมือกันเป็นแผงนั้นเพื่อช่วยพยุงกันและกันไม่ให้จมเลนค่ะ และเวลาปลูกต้นไม้ เราต้องกดลงไปให้ลึกมากพอที่คลื่นจะไม่ซัดให้ต้นไม้ลอยหลุดไปเมื่อนำ้ขึ้น ตาอยากให้เราทำให้ถูกต้องเป็นการให้ความรู้ผู้ชมไปด้วย

กว่าจะเก็บได้ ทั้งภาพใกล้ ภาพไกล ภาพกว้าง ภาพมุมสูง ฟ้าฝนที่เป็นใจอดกลั้นมาให้เราทั้งวันก็ตั้งเค้ามาแต่ไกล ทันทีที่สั่งเลิกกองเก็บของหมดเท่านั้นแหละ ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ไม่รู้จะนึกอะไรนอกจากว่า “เราช่างโชคดี ฟ้าฝนเอาใจช่วยเรามาตลอดสองวันติดๆ ในช่วงที่พายุกระหน่ำขนาดนี้”

ข้อมูลเกี่ยวกับหนังโฆษณา

ชื่อหนังโฆษณา : “ใจอาสา” (Volunteer Spirit)

ความยาว : 60, 45, 30 วินาที

ลูกค้า : โครงการเรดบูล สปิริต บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด

เอเยนซี่ : สยามเมนทิส
ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ : สุขจิต ศรีสุคนธ์
โพรดักชั่น เฮ้าส์ : มัสตาร์ด